นักลงทุนที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ยังต้องยกย่อง มีหลักคิดการลงทุนอย่างไร ?

นักลงทุนที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ยังต้องยกย่อง มีหลักคิดการลงทุนอย่างไร ?

นักลงทุนที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ยังต้องยกย่อง มีหลักคิดการลงทุนอย่างไร ? /โดย ลงทุนแมน
คุณจอห์น โบเกิล คือนักลงทุนที่คุณวอร์เรน บัฟเฟตต์ ยกย่องว่าได้สร้างคุณประโยชน์แก่นักลงทุนเป็นอย่างมาก
แม้ว่าเขาจะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่หลักคิดการลงทุนของเขา ยังคงถูกพูดถึง และนำไปใช้ทั่วโลกในปัจจุบัน
ใครคือคุณจอห์น โบเกิล ?
แล้วเขามีหลักคิดการลงทุนน่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เขาเป็นผู้ก่อตั้ง Vanguard Group บริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในปัจจุบัน
ซึ่งเป็นบริษัทที่บุกเบิกกองทุนอิงดัชนีกองแรกในโลกชื่อ
Vanguard 500 Index Fund ที่ลงทุนในดัชนี S&P 500 ของสหรัฐฯ
กองทุนประเภทนี้ มักมีค่าธรรมเนียมการบริหารที่ต่ำ
ขณะที่สามารถสร้างผลตอบแทนล้อไปกับตลาดได้
ทำให้ผลตอบแทนระยะยาว ทำได้ดีกว่ากองทุนอื่นที่เก็บค่าธรรมเนียมแพงกว่า
ถือเป็นทางเลือกการลงทุนที่เรียบง่าย คนทั่วไปก็สามารถทำตามได้ แม้จะไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับการเงินการลงทุนมากนักก็ตาม
ถ้าให้บอกหลักคิดการลงทุนของคุณจอห์น โบเกิล แบบสั้น ๆ หนึ่งประโยคก็น่าจะเป็น “อย่าพยายามเอาชนะตลาด”
โดยเขาเคยเล่าถึงประสบการณ์ครั้งหนึ่ง ที่เปลี่ยนวิธีคิดของเขาไปตลอดชีวิต
ตอนที่เขายังเป็นนักศึกษาที่ Princeton
และได้ทำงานพิเศษในช่วงซัมเมอร์ที่บริษัทโบรกเกอร์แห่งหนึ่ง
รุ่นพี่ที่ทำงานที่ชื่อว่าคุณ Raymond ได้พูดกับเขาว่า
“ฉันจะบอกทุกสิ่งที่นายจำเป็นต้องรู้ หากคิดจะเข้ามาในโลกการลงทุน”
คุณจอห์น โบเกิล ถามกลับทันทีว่า
“แล้วมันคืออะไร ?”
คุณ Raymond ตอบสั้น ๆ ว่า
“ไม่มีใครรู้อะไรจริง ๆ เลย..”
คุณจอห์น โบเกิล เก็บประโยคนี้กลับมาคิดอย่างตั้งใจ
และในที่สุดเขาก็ตกผลึกได้ว่า การคาดการณ์ในอนาคตสำหรับโลกการลงทุนนั้น เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
ไม่มีใครรู้จริง ๆ ว่า โลกการลงทุน ตลาดการเงิน ตลาดหุ้น ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ฯลฯ จะเป็นอย่างไรในอนาคต
เราทำได้เพียงแค่คาดการณ์ โดยอาศัยข้อมูลในอดีต
ปัจจุบัน และประสบการณ์ของเราที่ผ่านมาเท่านั้น ทั้งที่มันอาจไม่ได้สัมพันธ์กับผลลัพธ์ในอนาคตเสมอไป
การเอาชนะผลตอบแทนที่เหนือตลาด จึงเป็นเรื่องที่ยากมาก
พอเป็นแบบนี้ จึงกลายเป็นแก่นสำคัญที่ทำให้ คุณจอห์น โบเกิล สร้างปรัชญาการลงทุนในแบบ Passive ขึ้นมา
ซึ่งเป็นแนวทางกองทุนดัชนี หรือการลงทุนให้ “ล้อไปกับตลาด” แทนที่จะพยายาม “ชนะตลาด”
โดยหากลองดูตามข้อเท็จจริงแล้ว กว่า 80-90% ของกองทุน Active Fund (ผู้จัดการกองทุนเลือกทรัพย์สินที่จะลงทุนเองเชิงรุก) ไม่สามารถเอาชนะดัชนี S&P 500 ได้
และหากลองดูผลตอบแทนของ Vanguard 500 Index Fund (VOO) ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทำผลตอบแทนได้เฉลี่ย 14.6% ต่อปี
ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่า การไม่ต้องไปคาดการณ์อนาคต อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
และถ้าลองถอดบทเรียนของคุณจอห์น โบเกิล คงจะมี 3 ข้อ
1. ไม่มีใครรู้อนาคต
การคาดเดาตลาดเป็นเรื่องยากเกินกว่าที่ใครจะทำได้อย่างแม่นยำ และการยอมรับความไม่แน่นอนนี้คือคุณสมบัติแรก ๆ ของนักลงทุน
2. ผลลัพธ์ในอดีต ไม่ได้การันตีอนาคตเสมอไป
การใช้ข้อมูลในอดีตที่เกิดขึ้นแล้ว มาช่วยตัดสินใจได้
แต่ก็ไม่ควรยึดติด
ทั้งนี้ข้อมูลในอดีตไม่ได้การันตีอนาคตเสมอไป เพราะการลงทุนคือการมองไปข้างหน้ามากกว่า
3. เป็นเรื่องยากที่จะเอาชนะตลาดอย่างสม่ำเสมอ
เพราะตามข้อเท็จจริงข้างต้นชี้ว่า คนส่วนใหญ่ไม่สามารถเอาชนะได้
ดังนั้นการลงทุนแบบ Passive ด้วยกองทุนดัชนี
จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่
แม้แต่คุณวอร์เรน บัฟเฟตต์ ยังเคยกล่าวว่า แค่ลงทุนในกองทุนดัชนีเป็นประจำ นักลงทุนที่ไม่ได้รู้อะไรมาก ยังสามารถทำผลงานดีกว่ามืออาชีพส่วนใหญ่ได้
ซึ่งก็น่าจะเป็นเหตุผลอย่างดีว่า
หลักคิดการลงทุนของคุณจอห์น โบเกิล ยังคงทรงพลังและเป็นแนวทางที่เรียบง่ายให้กับนักลงทุน มาจนถึงทุกวันนี้..

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon