กรณีศึกษา ธุรกิจเครื่องเขียน Faber-Castell

กรณีศึกษา ธุรกิจเครื่องเขียน Faber-Castell

26 พ.ย. 2018
กรณีศึกษา ธุรกิจเครื่องเขียน Faber-Castell / โดย ลงทุนแมน
บริษัทนี้เดิมชื่อเฟเบอร์ ต่อมาลูกหลาน แต่งงานกับ ตระกูลคาสเทลล์
จึงเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น เฟเบอร์-คาสเทลล์
รู้ไหมว่าบริษัทเครื่องเขียนนี้มีอายุกว่า 250 ปี
บริษัทนี้ต้องเจอความท้าทายของเทคโนโลยีในหลายยุคสมัย
บริษัทนี้ทำอย่างไร ถึงอยู่ได้นานขนาดนี้
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เครื่องเขียน เป็นสิ่งของที่จำเป็นสำหรับทุกคน ไม่ว่าวัยเด็กหรือผู้ใหญ่
ซึ่งหนึ่งในผู้นำแบรนด์ ดินสอ, ปากกา ที่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง คือ “เฟเบอร์-คาสเทลล์”
เฟเบอร์-คาสเทลล์ ก่อตั้งขึ้นโดยช่างไม้ชาวเยอรมันชื่อ คัสพาร์ เฟเบอร์ ในปี ค.ศ. 1761 หรือเมื่อ 257 ปีที่แล้ว
โดยตอนแรกใช้ชื่อว่า A.W. Faber แต่ในปี 1900 ลูกหลานครอบครัวเฟเบอร์ ได้แต่งงานกับตระกูลคาสเทลล์ จึงเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น เฟเบอร์-คาสเทลล์
บริษัทเริ่มจากการผลิตดินสอที่มีคุณภาพสูง ก่อนขยายธุรกิจไปยังเครื่องเขียนประเภทอื่น รวมทั้งได้ออกไปเปิดสาขาในเมืองใหญ่ๆ เช่น นิวยอร์ก, ลอนดอน, ปารีส เป็นต้น
ทำให้ เฟเบอร์-คาสเทลล์ กลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและขายอุปกรณ์เครื่องเขียนที่ใหญ่ที่สุดของโลก
ปัจจุบันบริษัท ผลิตดินสอหลากหลายสี จำนวน 2,300 ล้านแท่งต่อปี มีพนักงานในเครือกว่า 7,000 คน ใน 100 ประเทศทั่วโลก
เฟเบอร์-คาสเทลล์ มีรายได้เท่าไร?
แม้ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ แต่มีการเปิดเผยข้อมูลว่า ปี 2017 เฟเบอร์-คาสเทลล์ มีรายได้สูงถึง 25,000 ล้านบาท
ส่วนในประเทศไทย แบรนด์นี้ ถูกนำเข้ามาจำหน่ายโดยบริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด
อะไรที่ทำให้ กิจการขายเครื่องเขียน สามารถคงอยู่มาได้เป็นร้อยๆ ปี?
โดยธรรมชาติของธุรกิจเครื่องเขียนนั้น จะมีผู้เล่นเข้าสู่ตลาดได้ง่าย จึงมีการแข่งขันที่สูง โดยเฉพาะด้านราคา
ดังนั้น เฟเบอร์-คาสเทลล์ จึงชูกลยุทธ์ที่เน้นด้านคุณภาพ โดยบริษัทเชื่อว่า ในระยะยาว ผู้บริโภคจะเลือกใช้สินค้าที่มีคุณภาพที่ดี เพราะมีระยะเวลาการใช้ที่นานกว่า ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ทำให้ต้นทุนของผู้ใช้ถูกกว่า
ซึ่งคุณภาพนั้น ก็พัฒนาโดยมีเป้าหมายให้ผู้ใช้ได้ประโยชน์มากที่สุด เช่น การเปลี่ยนดินสอจากทรงกลมเป็นเหลี่ยม เพื่อไม่ให้กลิ้งตกจากโต๊ะง่าย หรือ การผลิตยางลบ โดยใช้วัตถุดิบที่ปลอดสารพิษ เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทได้ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม โดยไม้ที่นำมาผลิตดินสอ นำมาจากป่าที่มีการบริหารจัดการระบบนิเวศน์ รวมทั้งมีการปลูกต้นไม้ขึ้นมาทดแทนด้วย
ทั้งหมดนี้ อาจทำให้ต้นทุนของ เฟเบอร์-คาสเทลล์ สูงกว่าคู่แข่งรายอื่น แต่นั่นกลับเป็นจุดแข็งที่ทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในแบรนด์
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจที่ดำเนินกิจการมานาน ย่อมต้องเจอกับความท้าทายเป็นธรรมดา
ตัวอย่างเช่นในช่วงปี 1970 มีสินค้าของบริษัทชื่อว่า Slide Rule ซึ่งเป็นไม้บรรทัดไว้คำนวณเลข ต้องเลิกผลิตไป เพราะ เครื่องคิดเลขได้ถูกผลิตเข้ามาสู่ตลาดอย่างแพร่หลาย
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุคสมัยนี้ ที่เทคโนโลยีได้สร้างเครื่องไม้เครื่องมือที่สะดวกสบายขึ้น เข้ามาแข่งขันกับอุปกรณ์เครื่องเขียนมากมาย
แต่บริษัท ก็ได้ปรับตัวและพร้อมเติบโตไปกับยุคดิจิทัล โดยพบว่าที่จริงแล้ว มนุษย์ยังต้องการสร้างสรรค์ผลงานด้วยการลงมือทำเองแบบเดิม เพราะมันแสดงออกถึงเอกลักษณ์ได้ดีกว่า
เฟเบอร์-คาสเทลล์ เป็นตัวอย่างที่ดีของธุรกิจ ที่นอกจากจะหวังผลกำไรแล้ว ยังคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้า และสังคมสิ่งแวดล้อม
เพราะหากไม่มีผู้คนเหล่านี้แล้ว สินค้าเราก็จะไม่มีคนซื้อ การเติบโตไปพร้อมกับผู้บริโภค จึงเป็นปัจจัยเสริม ที่ทำให้ธุรกิจดำเนินมาได้อย่างยั่งยืน แม้จะเจออุปสรรคอะไรก็ตาม
สุดท้าย สิ่งที่น่าสนใจ คือ
บางบริษัทนั้นอาจมีอายุเป็นร้อยปี บางบริษัทอาจจะล้มหายตายจากไป
แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่หายไป แม้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไร คือความฝันและไอเดียความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์โลก
การที่ธุรกิจของเฟเบอร์-คาสเทลล์ อยู่มาได้มากกว่า 250 ปี เป็นสิ่งสะท้อนเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี..
----------------------
ติดตามเรื่องน่ารู้อื่นๆ ได้ที่แอปพลิเคชัน "blockdit" โหลดได้ที่ blockdit.com
ความคิดดีๆ เกิดขึ้นที่บล็อกดิต..
.
หนังสือลงทุนแมนไว้อ่านยามว่าง เล่ม 1.0-7.0 ซื้อได้ที่ลิงก์นี้ lazada.co.th/shop/longtunman
.
อินสตาแกรม ไว้ดูภาพสวยๆ instagram.com/longtunman
.
ทวิตเตอร์กระชับฉับไว twitter.com/longtunman
.
ไลน์ส่งข้อความตรงวันละครั้ง line.me/R/ti/p/%40longtunman
----------------------
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.