กรณีศึกษา Skype วิดีโอคอล ที่โลกลืม

กรณีศึกษา Skype วิดีโอคอล ที่โลกลืม

29 พ.ย. 2021
กรณีศึกษา Skype วิดีโอคอล ที่โลกลืม /โดย ลงทุนแมน
ย้อนกลับไป “มาคุย Skype กัน” อาจเคยเป็นคำฮิตติดปาก ของใครหลายคน และใช้เรียกแทนการติดต่อสื่อสารผ่านทางวิดีโอคอล
ผ่านมาถึงปัจจุบัน สถานการณ์โรคระบาดที่ทำให้ต้องเว้นระยะห่าง และ Work From Home
ได้เป็นตัวเร่งให้คนหันมาใช้บริการวิดีโอคอลมากขึ้น จนหลายแพลตฟอร์มเติบโตแบบก้าวกระโดด
ไม่ว่าจะเป็น Zoom, Google Meet หรือ Microsoft Teams
แต่สิ่งที่น่าแปลกใจ คือ ผู้ครองตลาดมายาวนานอย่าง Skype
กลับถูกมองข้าม และสูญเสียผู้ใช้งานไปให้ผู้เล่นรายอื่นเกือบหมด
มันเกิดอะไรขึ้นกับ Skype ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Skype เป็นโปรแกรมติดต่อสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต เริ่มเปิดให้บริการในปี 2003 หรือ 18 ปีที่แล้ว
ผู้ร่วมก่อตั้งกิจการ คือ คุณ Janus Friis นักธุรกิจชาวเดนมาร์ก และคุณ Niklas Zennström นักธุรกิจชาวสวีเดน และมีโปรแกรมเมอร์ชาวเอสโตเนียอีก 4 คน เป็นทีมหลักที่พัฒนา Skype ขึ้นมา
ก่อนหน้านี้ พวกเขาเคยสร้าง Kazaa โปรแกรมแชร์ไฟล์แบบ Peer-to-Peer (P2P) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์โดยตรง ไม่ต้องผ่านเครือข่ายกลาง
ต่อมา พวกเขาได้นำไอเดียจาก Kazaa มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ นั่นคือ โปรแกรมบริการโทรศัพท์และวิดีโอคอลแบบ P2P ชื่อว่า “Skype”
ผู้ใช้งาน Skype จะสามารถโทรหากันได้ฟรี เพียงแค่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต หรือโทรเข้าเบอร์ปกติในราคาถูก เนื่องจาก Skype ไม่ต้องลงทุนอุปกรณ์เครือข่ายกลางมากนัก ทำให้บริษัทประหยัดต้นทุน และคิดค่าโทรได้ถูกลง
ด้วยเหตุนี้ Skype จึงได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และมีฐานผู้ใช้งานถึง 115 ล้านราย ภายในช่วง 3 ปีแรก จนคำว่า “Skype” กลายเป็นคำพูดติดปากที่คนใช้เพื่อนัดหมายโทรศัพท์หรือวิดีโอคอลกัน
แม้แต่พจนานุกรมภาษาอังกฤษ ฉบับออกซฟอร์ด ยังมีการบัญญัติคำว่า “Skype” เป็นคำกริยาที่มีความหมายว่า การสนทนาผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยโปรแกรม Skype

ต่อมาในปี 2007 ความโดดเด่นของ Skype ก็ไปเข้าตา eBay เว็บไซต์ซื้อขายและประมูลสินค้าออนไลน์ ซึ่งขอเข้าซื้อกิจการด้วยเงินราว 86,000 ล้านบาท
โดย eBay หวังใช้ Skype เป็นเครื่องมือสำหรับให้ผู้ซื้อขายสินค้าใช้ติดต่อกัน
แต่ดูเหมือนว่าบริษัทจะวิเคราะห์พลาด
เพราะคนส่วนใหญ่ที่ทำรายการออนไลน์ ไม่ได้ต้องการเปิดเผยตัวตน
จึงทำให้ eBay ตัดสินใจขายหุ้นให้นักลงทุนกลุ่มใหม่ เพื่อลดสัดส่วนถือหุ้น Skype เหลือ 30% ในปี 2009
อย่างไรก็ตาม บริการหลักอย่างโทรศัพท์และวิดีโอคอลของ Skype ยังคงแข็งแกร่งอยู่ ส่งผลให้ Skype เติบโตต่อเนื่อง
ปี 2007 มีรายได้ 1.26 หมื่นล้านบาท
ปี 2010 มีรายได้ 2.85 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเกินเท่าตัว
พอเป็นเช่นนี้ Skype จึงยังเนื้อหอมในฐานะผู้นำการติดต่อสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต
โดยในปี 2011 บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เช่น Facebook (ซึ่งตอนนี้คือ Meta Platforms) และ Google (ซึ่งตอนนี้คือ Alphabet) ได้ยื่นข้อเสนอราว 99,000 ล้านบาท เพื่อขอซื้อกิจการ
แต่สุดท้ายกลับกลายเป็น “Microsoft” ที่ปิดดีลสำเร็จ เพราะยอมจ่ายเงิน 280,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นเกือบ 3 เท่า ของมูลค่าเสนอซื้อของรายอื่น
หลังจากได้ครอบครอง Skype แล้ว Microsoft ก็นำเอาบัญชีผู้ใช้งานของ Windows Live Messenger โปรแกรมแช็ตสำหรับบุคคลทั่วไป และ Microsoft Lync โปรแกรมสื่อสารภายในองค์กร มารวมเข้าไว้กับ Skype ที่เดียว เพื่อปั้นเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารแบบครบวงจร
แต่ว่า.. จุดอ่อนที่สำคัญของ Skype คือ ระบบ P2P นั้นไม่ค่อยเสถียร โดยเฉพาะกับการใช้บนสมาร์ตโฟน ซึ่งขึ้นอยู่กับคุณภาพสัญญาณอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้
ทำให้ต่อมา Microsoft แก้ไขปัญหาด้วยการเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีคลาวด์ เป็นเครือข่ายกลางแทน
อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงโปรแกรมกลับล่าช้า ทำให้บริการไม่เสถียรเช่นเดิม ประกอบกับมีการอัปเดตอัตโนมัติอยู่บ่อยครั้ง จนบางคนต้องพลาดการประชุมไป ส่งผลให้ผู้ใช้งาน โดยเฉพาะลูกค้าองค์กร เริ่มเบื่อหน่ายกับ Skype
ในขณะเดียวกัน ผู้ให้บริการรายอื่น เช่น Zoom เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากแพลตฟอร์มมีความเสถียรกว่า ใช้งานง่าย และออกแบบฟังก์ชันตอบโจทย์ทั้งในแง่ของการประชุมงาน หรือพูดคุยปกติทั่วไป
แม้แต่ Microsoft เอง ก็ชักไม่มั่นใจในศักยภาพของ Skype จึงหันไปสร้างแพลตฟอร์มติดต่อสื่อสารตัวใหม่ ชื่อว่า “Microsoft Teams” ขึ้นมาในปี 2016 โดยมีฟังก์ชันครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น วิดีโอคอล, ห้องแช็ต, พื้นที่รับส่งไฟล์ และการเชื่อมต่อกับโปรแกรมอื่นในเครือ Microsoft
จนกระทั่งในปี 2020 ถือเป็นโอกาสทองของอุตสาหกรรมวิดีโอคอลก็ว่าได้ หลังเกิดเหตุการณ์ระบาดของโควิด 19 ที่ทำให้ผู้คนต้องกักตัว และทำงานอยู่บ้าน จนต้องติดต่อสื่อสารผ่านทางโลกออนไลน์แทน
ซึ่งพอผู้ใช้งานส่วนใหญ่หมดความเชื่อมั่นในคุณภาพของ Skype มาสักพักแล้ว จึงมองหาทางเลือกอื่นที่น่าใช้งานมากกว่า สะท้อนได้ชัดเจนจากข้อมูลส่วนแบ่งตลาดแพลตฟอร์มวิดีโอคอลทั่วโลก
ส่วนแบ่งตลาดวิดีโอคอล เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2020 (ช่วงก่อนเกิดวิกฤติโควิด 19)
อันดับ 1 - Skype 32.4%
อันดับ 2 - Zoom 26.4%
อันดับ 3 - Microsoft Teams 9.7%
อันดับ 4 - Google Meet 1.6%
ปี 2021
อันดับ 1 - Zoom 48.7%
อันดับ 2 - Google Meet 21.8%
อันดับ 3 - Microsoft Teams 14.5%
อันดับ 4 - Skype 6.6%
จะเห็นได้ว่า จากที่ Skype เคยครองส่วนแบ่งตลาดวิดีโอคอลถึง 1 ใน 3 ของโลก กลับสูญเสียผู้ใช้งานไปให้แพลตฟอร์มอื่นอย่างรวดเร็ว หลังเกิดวิกฤติโรคระบาด และไม่ได้เป็นชื่ออันดับต้น ๆ ที่คนจะนึกถึงเมื่อพูดถึงบริการวิดีโอคอล ซึ่งสาเหตุก็เพราะว่าปัญหาเรื่องคุณภาพของโปรแกรม Skype ที่ผู้ใช้ใหม่จะเลือกโปรแกรมนี้เป็นอันดับท้าย ๆ
ทำให้ในเดือนกรกฎาคม ปี 2021 ที่ผ่านมา Microsoft ได้ประกาศหยุดให้บริการ Skype สำหรับลูกค้าองค์กร โดยเปลี่ยนไปใช้ Microsoft Teams เพียงแพลตฟอร์มเดียวเท่านั้น
เรื่องราวนี้ให้ข้อคิดที่น่าสนใจว่า
แม้จะเคยเป็นผู้นำตลาด ที่ทุกคนรู้จัก และใช้งานอยู่เป็นประจำ
แต่ถ้าไม่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค
ก็อาจมีคนเห็นช่องว่าง และพร้อมเข้ามาโค่นบัลลังก์ลงได้เสมอ
เหมือนดังกรณีที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมวิดีโอคอล ขณะนี้
ถ้าเราต้องการนัดคุยกันผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์
คำพูดติดปากของคนส่วนใหญ่ คงจะเป็น “ขอนัดคุย Zoom” “มา Google Meet กันหน่อย” หรือ “ขอนัดประชุม Microsoft Teams นะ”
และถ้าดูจากส่วนแบ่งตลาดวิดีโอคอลตอนนี้แล้ว
น้อยคนมาก ที่จะพูดว่า “มาคุยใน Skype กัน”..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.linkedin.com/pulse/how-microsoft-failed-skype-akhil-suresh-nair
-https://slidebean.com/story/when-did-skype-come-out
-https://techresearchonline.com/blog/how-did-zoom-surpassed-skype/#
-https://www.wired.co.uk/article/skype-coronavirus-pandemic
-https://www.statista.com/statistics/266191/skype-revenue-since-2006/
-https://www.emailtooltester.com/en/blog/video-conferencing-market-share/
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.