กรณีศึกษา รพ.ยันฮี จากคลินิกเสริมความงามเล็ก ๆ สู่โรงพยาบาลรายได้พันล้าน

กรณีศึกษา รพ.ยันฮี จากคลินิกเสริมความงามเล็ก ๆ สู่โรงพยาบาลรายได้พันล้าน

5 ก.ค. 2022
กรณีศึกษา รพ.ยันฮี จากคลินิกเสริมความงามเล็ก ๆ สู่โรงพยาบาลรายได้พันล้าน /โดย ลงทุนแมน
“1,383 ล้านบาท” คือรายได้ของโรงพยาบาลยันฮี ในปีที่ผ่านมา
รู้หรือไม่ว่า ?
โรงพยาบาลด้านความงาม ที่มีรายได้หลักพันล้านบาทแห่งนี้
เป็นธุรกิจที่มีจุดเริ่มต้นมาจากคลินิกเล็ก ๆ ด้วยเงินทุนเพียง 2 ล้านบาท
ยิ่งไปกว่านั้น น้ำดื่มวิตามินยันฮี ที่เรารู้จักกันดี ความจริงแล้ว
เป็นธุรกิจที่เพิ่งเกิดขึ้นได้เพียง 6 ปี แต่ในวันนี้ก็มีรายได้ในระดับพันล้านบาทเช่นเดียวกัน
จากเงินทุนเพียง 2 ล้านบาทในวันนั้น
กลายมาเป็นธุรกิจที่มีรายได้หลักพันล้านบาทในวันนี้ได้อย่างไร ?
ใครคือผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวนี้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
โรงพยาบาลยันฮี มีจุดเริ่มต้นมาจาก
คุณหมอสุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา อดีตแพทย์ฝึกหัดที่โรงพยาบาลรามาธิบดี
ได้ตัดสินใจมาทำธุรกิจคลินิกเสริมความงาม ที่มีชื่อว่า “ยันฮีโพลีคลินิก”
ซึ่งเป็นการร่วมเงินลงขันกับเพื่อนหมอ รวมแล้วทั้งหมด 7 คน คิดเป็นเงินทุนก้อนแรกราว 2 ล้านบาท โดยเริ่มทำการเปิดสาขาแรกในปี พ.ศ. 2527 ที่อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
หลังจากนั้นอีก 5 ปี ก็ได้ทำการเปิดสาขาที่ 2 ซึ่งตั้งอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 90 บนถนนจรัญสนิทวงศ์
ต่อมาในปี พ.ศ. 2540 คุณหมอสุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา และผู้ร่วมก่อตั้งคนอื่น ต้องการยกระดับยันฮี จากโพลีคลินิกไปสู่การเป็นโรงพยาบาล จึงมีการก่อตั้งโรงพยาบาลยันฮีขึ้นมา เพื่อรองรับคนไข้ได้มากขึ้น
แต่เรื่องราวมันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เนื่องจากในเวลานั้น “ยันฮี” ยังเป็นธุรกิจที่เกิดขึ้นได้เพียงไม่กี่ปี
ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายมากนัก
นอกจากปัญหาเรื่องการรับรู้ของแบรนด์หรือธุรกิจ ปัญหาที่หนักกว่าคือ
สังคมไทยก่อนหน้านี้ ยังไม่ค่อยเปิดรับเรื่องการทำศัลยกรรมด้านความงาม
ไม่ว่าจะเป็น การทำตา 2 ชั้น, การทำจมูกให้โด่ง, การผ่าตัดเสริมหน้าอก ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับกันเท่าไรนัก
หลายครั้งที่คนที่ไปทำศัลยกรรม หรือดูแลเรื่องความสวยความงาม มักเจอคำถามว่า “ความสวยที่พ่อแม่ให้มาตามธรรมชาติยังไม่พอใจอีกเหรอ”
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงทำให้ในตอนนั้น คนไหนที่อยากทำศัลยกรรม จึงมักเดินทางไปต่างประเทศมากกว่าที่จะทำในประเทศไทย
ซึ่งจากปัญหาเหล่านี้ ทำให้ในช่วง 2 ปีแรกของโรงพยาบาลยันฮี แทบไม่มีลูกค้าเลย
คำถามต่อมาคือ แล้วทำไมการเปิดโรงพยาบาลจึงต้องการลูกค้ามากมายขนาดนั้น ?
คำตอบคือ เพราะว่าโรงพยาบาลเป็นธุรกิจที่มีต้นทุนคงที่สูง
ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) คือ ต้นทุนที่ธุรกิจต้องเจอ
ไม่ว่าจะมีรายได้มาก หรือน้อย ธุรกิจยังคงต้องเสียต้นทุนในส่วนนี้เท่า ๆ เดิม
ซึ่งโดยธรรมชาติของธุรกิจโรงพยาบาล เป็นธุรกิจที่มีต้นทุนคงที่สูง
เนื่องจากโรงพยาบาล เป็นธุรกิจที่มีสินทรัพย์ถาวรค่อนข้างมาก
ยกตัวอย่างเช่น อาคารรักษาผู้ป่วย เครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์
ซึ่งโดยทั่วไป สินทรัพย์ถาวรเหล่านี้ จะมีค่าใช้จ่ายทางบัญชีที่เรียกว่า ค่าเสื่อมราคา ตามมา
นั่นหมายความว่า ถ้ารายได้ที่โรงพยาบาลได้รับ น้อยกว่าค่าเสื่อมราคาที่เกิดขึ้น ธุรกิจก็มีโอกาสขาดทุนในบัญชี
อย่างไรก็ตาม ค่าเสื่อมราคาเหล่านี้เป็นเพียงค่าใช้จ่ายทางบัญชี ไม่ได้เป็นเงินสดที่ธุรกิจจ่ายออกไปจริง ๆ ดังนั้นแม้จะขาดทุน ธุรกิจอาจดำเนินต่อไปได้ หากยังคงมีเงินสดที่เพียงพอ
ในตอนนั้นคุณหมอสุพจน์ ไม่ได้คิดที่จะยอมแพ้
เขากลับมองว่า เมื่อไรก็ตามที่สังคมไทยเปิดกว้างกับเรื่องนี้มากขึ้น
ในไม่ช้าธุรกิจนี้ ก็น่าจะเติบโตเหมือนกับในต่างประเทศ
เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ เขาจึงเดินหน้าทำธุรกิจต่อไป
ซึ่งกลยุทธ์ที่เขาเลือกใช้ในตอนนั้น คือ การรณรงค์และประชาสัมพันธ์เรื่องของความสวยงามอย่างปลอดภัยที่ยันฮี ด้วยแพทย์ที่เชี่ยวชาญโดยตรง

ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวก็ถือว่า ค่อนข้างประสบความสำเร็จเลยทีเดียว เพราะหลังจากนั้นไม่นาน
ชื่อเสียงด้านการทำศัลยกรรมและความงามของโรงพยาบาลยันฮี ก็ค่อย ๆ เป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อย ๆ
จนปัจจุบัน อาจกล่าวได้ว่า ถ้าพูดถึงโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงเรื่องของการทำศัลยกรรม และการดูแลเรื่องความสวยความงามนั้น ชื่อของโรงพยาบาลยันฮี ก็น่าจะเป็นหนึ่งในชื่อแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึง
ซึ่งหลังจากที่ คุณหมอสุพจน์เริ่มประสบความสำเร็จในธุรกิจศัลยกรรมและการดูแลเรื่องความงามแล้ว
เขาก็ได้เดินหน้าต่อยอดธุรกิจ ให้โรงพยาบาลยันฮีมีความหลากหลายมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นบริการรักษาโรคทั่วไป, รักษาทันตกรรม รวมถึงบริการแพทย์ทางเลือก เช่น แพทย์แผนไทย
ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้ ก็ได้ทำให้ในวันนี้
โรงพยาบาลยันฮี ได้กลายมาเป็นธุรกิจที่มีรายได้ในระดับพันล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ปี 2563 รายได้ 1,519 ล้านบาท ขาดทุน 102 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 1,383 ล้านบาท ขาดทุน 92 ล้านบาท
ส่วนสาเหตุที่ขาดทุนในช่วงปี พ.ศ. 2563-2564 เป็นเพราะโรงพยาบาลได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โรคระบาดโควิด 19 ซึ่งหลังจากผ่านพ้นช่วงนี้ไปแล้ว ก็คาดว่าผู้คนจะกลับมาใช้บริการศัลยกรรมและความงามของโรงพยาบาลอีกครั้ง
และแน่นอนว่า ในวันนี้หากพูดถึงชื่อยันฮีแล้ว “น้ำดื่มวิตามินยันฮี” ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่หลายคนนึกถึง
รู้หรือไม่ว่า ? ธุรกิจน้ำดื่มวิตามินยันฮี เป็นธุรกิจที่เพิ่งเกิดขึ้นได้เพียง 6 ปี แต่ปัจจุบันเป็นธุรกิจที่มีรายได้ระดับพันล้านบาท เช่นเดียวกับโรงพยาบาลยันฮีเลยทีเดียว
โดยธุรกิจน้ำดื่มยันฮี วิตามิน วอเตอร์ เกิดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2556
ซึ่งในตอนนั้นคุณหมอสุพจน์ ได้สังเกตเห็นว่า คนไข้ของโรงพยาบาลยันฮี ที่ได้รับการผ่าตัดเสร็จแล้ว ร่างกายจะอยู่ในภาวะอ่อนแอ เนื่องจากเสียเลือดเยอะ ซึ่งการฟื้นฟูร่างกายคือ การให้คนไข้นั้นทานวิตามิน
อย่างไรก็ตาม คนไข้จำนวนไม่น้อยปฏิเสธการทานวิตามินที่เป็นเม็ด
พอเรื่องเป็นแบบนี้ เขาจึงคิดค้นวิธีที่จะช่วยให้คนไข้สามารถทานวิตามินได้อย่างสะดวกมากขึ้น จึงได้คิดค้นน้ำดื่มวิตามิน แทนวิตามินแบบเม็ด เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็ว
ปรากฏว่า น้ำดื่มวิตามิน ได้รับการตอบรับจากคนไข้เป็นอย่างดี ทำให้คนไข้จำนวนไม่น้อยเริ่มติดต่อมายังโรงพยาบาลเพื่อที่จะซื้อน้ำดื่มดังกล่าวกลับไปดื่ม แม้ว่าจะไม่ได้มารักษาตัวในโรงพยาบาลแล้วก็ตาม
พอเรื่องเป็นแบบนี้ คุณหมอสุพจน์และผู้บริหารโรงพยาบาล จึงตัดสินใจที่จะทำสินค้าดังกล่าวออกมาจำหน่ายให้กับคนทั่วไปอย่างจริงจัง
ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่าเพียงไม่กี่ปี ธุรกิจน้ำดื่มวิตามินยันฮี จะเติบโตจนกลายเป็นธุรกิจที่มีรายได้ในหลักพันล้านบาทเลยทีเดียว
เราลองมาดูรายได้และกำไรของ บริษัท ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ จำกัด ในช่วงที่ผ่านมากัน
ปี 2561 รายได้ 35 ล้านบาท ขาดทุน 32 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 468 ล้านบาท กำไร 127 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 1,181 ล้านบาท กำไร 180 ล้านบาท

ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้หรือไม่ว่า ? ชื่อของ “ยันฮี” นั้น
เป็นการตั้งชื่อตาม การไฟฟ้ายันฮี หรือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในปัจจุบัน ซึ่งตั้งอยู่ข้าง ๆ คลินิกยันฮีสาขาแรกนั่นเอง..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.bangkokbiznews.com/business/679702
-https://th.yanhee.net/
-https://www.thansettakij.com/business/512913
-https://vitaminwater.co.th
-https://positioningmag.com/1290678
-https://th.yanhee.net/เกร็ดความรู้/วันก่อตั้ง-รพ-ยันฮี/
-https://th.wikipedia.org/wiki/การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.