กรณีศึกษา ทำไมการใช้แล็ปท็อป ที่มีประสิทธิภาพ ถึงเป็นการลงทุนที่ดี ?

กรณีศึกษา ทำไมการใช้แล็ปท็อป ที่มีประสิทธิภาพ ถึงเป็นการลงทุนที่ดี ?

28 ธ.ค. 2022
กรณีศึกษา ทำไมการใช้แล็ปท็อป ที่มีประสิทธิภาพ ถึงเป็นการลงทุนที่ดี ?
Microsoft x ลงทุนแมน
รู้หรือไม่ ? จากผลสำรวจของพนักงาน 1,000 คนในสหราชอาณาจักร พบว่า 43% ของพนักงานเสียเวลามากถึง 3 ชั่วโมงในการซ่อมแซมอุปกรณ์ไอที
และ 33% เสียเวลาในการแก้ปัญหาการประชุมทางวิดีโอ
ซึ่งถ้าเอาตัวเลขเหล่านี้เปลี่ยนเป็นตัวเงินคร่าว ๆ จะทำให้องค์กรต้องสูญเสียรายได้มากถึง 110,000 บาทต่อคนต่อปี
แน่นอนว่า ในปัจจุบัน การทำงานแบบ Hybrid หรือผสมผสานกันทั้งโลกออนไลน์ และออฟไลน์ กำลังกลายมาเป็นเทรนด์ที่หลาย ๆ องค์กรให้ความสำคัญ
แล้วองค์กรจะต้องทำอย่างไร ให้การทำงานบนโลกออนไลน์มีประสิทธิภาพ มีความคิดสร้างสรรค์ และได้รับการร่วมมือไม่ต่างจากการทำงานในออฟฟิศ ?
หนึ่งในกุญแจสำคัญคือการลงทุนในแล็ปท็อป ที่มีประสิทธิภาพ
แต่คำว่าประสิทธิภาพ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงสเป็กของฮาร์ดแวร์ที่สูงเพียงอย่างเดียว
แต่ยังหมายถึงการรองรับฟีเชอร์ที่สำคัญ ที่จะมายกระดับการทำงานของเรา
เช่น รองรับการเขียนด้วยอุปกรณ์เสริม หรือมีหน้าจอแบบสัมผัสได้ (Touch Screen)
เรื่องเล็ก ๆ เหล่านี้ เป็นสิ่งสำคัญที่องค์กรไม่ควรมองข้าม..
แล้วถ้าถามว่า แล็ปท็อปแบรนด์ไหน ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การทำงานของผู้คนในยุคใหม่
หนึ่งในคำตอบของใครหลาย ๆ คนต้องมีชื่อของ “Microsoft Surface”
เพราะ Microsoft Surface ไม่ใช่แล็ปท็อปธรรมดา แต่เป็นแล็ปท็อปแบบ Hybrid ที่สามารถใช้เป็นทั้งแบบแท็บเล็ตที่มาพร้อมกับหน้าจอ Touch Screen ขนาดใหญ่ ที่รองรับการใช้งานร่วมกับ Surface Pen
และยังสามารถเชื่อมต่อคีย์บอร์ดเพื่อใช้ในการทำงานแบบโน้ตบุ๊ก
ทำให้เราสามารถทำงานได้อย่างคล่องตัว และมีประสิทธิภาพไปพร้อม ๆ กันได้
วันนี้ลงทุนแมนจะมาเล่าถึง 2 กรณีศึกษา จาก 2 ผู้บริหารแนวหน้าของประเทศไทย
ที่ทั้งคู่ได้เลือกใช้ Microsoft Surface เพื่อเป็นเครื่องคู่ใจในการยกระดับการทำงาน
เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เริ่มจากคุณวิศรุต เคหะสุวรรณ ผู้ก่อตั้ง Visual Training Plus และเจ้าของเพจ คิดด้วยภาพ ที่ได้มาฉายภาพให้เห็นถึงความสำคัญของ Microsoft Surface และการวาดภาพเพื่อเล่าเรื่อง
โดยเริ่มแรกคุณวิศรุต บอกว่า ปัจจุบันโลกธุรกิจมีความซับซ้อนและไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นหากจะอยู่รอดให้ได้ ต้องคิดให้ชัดและสื่อสารให้เร็ว
แต่การจะทำทั้งสองอย่างพร้อม ๆ กันนับว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก
เพราะมีข้อมูลมหาศาลที่ต้องนำมาใช้ในการตัดสินใจ
อย่างไรก็ตาม คนเรามีวิธีการเปลี่ยนความซับซ้อนให้เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายและชัดเจน
นั่นคือ การคิดด้วยภาพ
โดยเราจะใช้กระดาษและปากกา “ทดความคิดลงในกระดาษ” เพื่อให้ตาของเรา ช่วยสมองในการคิด
ซึ่งคนที่ประสบความสำเร็จล้วนแล้วแต่ใช้ภาพช่วยคิดทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะเป็น เลโอนาร์โด ดา วินชี หรือแม้แต่ บารัก โอบามา
ดังนั้น Microsoft Surface ที่มี Surface Pen จึงกลายเป็นอุปกรณ์ที่น่าใช้ในยุคนี้
เพราะเป็นอุปกรณ์ที่สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง
เช่น ช่วยในการคิด เพราะ Surface Pen ลบได้ เติมได้ แทรกรูปได้ โดยไม่ต้องวาดเอง
ผู้ใช้งานสามารถคอมเมนต์งานได้ด้วยความรวดเร็ว
ทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันอื่น ๆ ของ Microsoft ได้แบบไร้รอยต่อ
มีเครื่องมือช่วยมากมาย ทำได้ตั้งแต่ Chart, Diagram, Map, Venn Diagram, Timeline และ Flowchart เรียกได้ว่าครบทุกความต้องการ
ยกตัวอย่าง หนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจคือ กรณีศึกษาของ Dan Roam ที่ใช้ Surface Pen วาดเรื่องราวของนโยบายประกันสุขภาพของโอบามา (Obama Care)
ซึ่งเป็นประเด็นที่สังคมชาวอเมริกันในตอนนั้นกำลังสับสนงงงวย ให้ออกมาเป็นภาพที่เข้าใจได้ง่าย จนมีคนดาวน์โหลดกว่า 4 ล้านคน
พอเป็นแบบนี้ มันจึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมคุณวิศรุตถึงเลือก Microsoft Surface ให้เป็นอุปกรณ์การทำงานที่เหมาะกับผู้คนในยุคใหม่
ทีนี้เราลองมาดู อีกหนึ่งประสบการณ์ตรง จากผู้ที่ใช้งาน Microsoft Surface
อย่าง คุณสโรจ เลาหศิริ ผู้เชี่ยวชาญ และที่ปรึกษาด้านการตลาด และเจ้าของเพจ สโรจขบคิดการตลาด
โดยคุณสโรจ เลาหศิริ ได้เริ่มจากการแชร์มุมมอง ข้อเสียของการใช้แล็ปท็อปราคาถูกที่ประสิทธิภาพไม่ค่อยดี และมีฟีเชอร์ที่จำกัด
แน่นอนว่า การใช้แล็ปท็อปราคาถูก จะช่วยลดต้นทุนหลายพันบาทต่อเครื่อง
แต่รู้หรือไม่ว่า จริง ๆ แล้ว ผลเสียที่ตามมานั้นอาจมีค่าใช้จ่าย
หรือค่าเสียโอกาสที่สูงกว่าต้นทุนนั้น ๆ เสียอีก
ไม่ว่าจะเป็น Productivity ของเหล่าพนักงานแย่กว่าที่ควรจะเป็น, ค่าดูแลรักษา, อุปกรณ์มีฟังก์ชันไม่ครบครัน และอื่น ๆ อีกมากมาย
เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ ทำให้คุณสโรจ เลือกที่จะหันมาใช้ Microsoft Surface
โดยคุณสโรจ ได้แชร์ประสบการณ์ส่วนตัวจากการใช้ Microsoft Surface ว่า
ข้อดีนอกจากราคาเหมาะสม และมีประสิทธิภาพแล้ว Microsoft Surface ยังมีอิทธิพลกับการทำงานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น
สร้างความ Productivity ให้ทำงานได้ไม่เบื่อ, เสริมความ Creativity สร้างสรรค์ได้ไม่หยุด ไปจนถึงการ Collaboration ทำงานร่วมกันได้ตลอด
และการที่ Microsoft Surface รองรับการทำงานด้วยปากกาอัจฉริยะอย่าง Surface Pen ทำให้เราสามารถคอมเมนต์ หรือฟีดแบ็กงานได้ง่าย ๆ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหัวใจหลักในการทำงานของผู้บริหาร
เพราะบรีฟด้วยภาพได้ง่าย ใช้ถ่ายรูป แล้วขีดเขียนได้ตามที่ตัวเองต้องการทันที จะเขียนเป็นแผนภาพก็ยังได้อีกด้วย ช่วยให้สื่อสารกับลูกน้องได้ดีกว่าการพิมพ์อักษรเท่านั้น
จากเรื่องราวทั้งหมด เราก็คงพอสรุปได้ว่า แล็ปท็อปมีความสำคัญไม่น้อยเลยกับธุรกิจในยุคนี้
ซึ่ง Microsoft Surface ไม่เพียงแต่จะเป็นแล็ปท็อปที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การทำงานของคนในยุคใหม่
แต่ Microsoft Surface ยังครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งาน และฟีเจอร์ที่จะมายกระดับการทำงานขององค์กร ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นั่นเอง..
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจ อยากเพิ่มประสิทธิภาพให้กับองค์กร สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.